ฉลองปีใหม่อย่างปลอดภัย ห่างไกลอาหารเป็นพิษ

ช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นเวลาที่หลายคนออกเดินทาง ท่องเที่ยว สังสรรค์ และรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง อาหารหลากหลายเมนูคือสีสันของการเฉลิมฉลอง แต่หากขาดความระมัดระวัง อาจนำไปสู่ปัญหา “อาหารเป็นพิษ” ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและอาจทำให้การเฉลิมฉลองต้องสะดุดได้ การรู้เท่าทัน เลือกบริโภคอาหารอย่างถูกวิธี และสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย จะช่วยให้คุณและคนที่คุณรักสนุกกับเทศกาลปีใหม่ได้อย่างปลอดภัย

การเลือกซื้อและเตรียมอาหารอย่างถูกวิธี

การป้องกันอาหารเป็นพิษเริ่มต้นตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบและการปรุงอาหาร

• ควรเลือกอาหารที่ใหม่ สด และสะอาด
• สังเกตลักษณะ สี กลิ่น และรสชาติของอาหาร หากพบความผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น สีเปลี่ยน หรือมีเมือก ควรหลีกเลี่ยงทันที
• เลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีการเก็บรักษาอาหารอย่างเหมาะสม
• ก่อนนำมาปรุง ควรล้างวัตถุดิบให้สะอาด โดยเฉพาะผักและเนื้อสัตว์
  ปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ไข่ และอาหารทะเล
• หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ปรุงทิ้งไว้นาน หรือเก็บในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม

อาหารที่ควรระวังเป็นพิเศษในช่วงปีใหม่

ในช่วงเทศกาล มักมีอาหารบางประเภทที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาหารเป็นพิษสูง ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่

• จ่อม ลาบ ก้อยดิบ อาหารที่ใช้เนื้อสัตว์ดิบหรือสุกๆ ดิบๆ มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียและพยาธิ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรงหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
• อาหารทะเล อาหารทะเลที่ไม่สดหรือปรุงไม่สุก อาจมีเชื้อแบคทีเรียหรือสารพิษจากสัตว์ทะเล ควรเลือกที่สด สะอาด และปรุงให้สุกทุกครั้ง
• อาหารประเภทยำ ส้มตำ อาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบสด หากล้างไม่สะอาด หรือปรุงในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ง่าย
• อาหารที่มีกะทิสดอาหารที่ใช้กะทิสด หากเก็บรักษาไม่ดีหรือวางไว้นาน อาจบูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน
• น้ำแข็งที่ไม่ได้มาตรฐาน น้ำแข็งที่ผลิตหรือเก็บรักษาไม่ถูกสุขลักษณะ อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน ควรเลือกใช้น้ำแข็งจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน และหลีกเลี่ยงน้ำแข็งที่มีสิ่งสกปรกหรือกลิ่นผิดปกติ

อาการอาหารเป็นพิษที่ควรเฝ้าระวัง

อาการอาหารเป็นพิษอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือภายใน 1–2 วันหลังรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน อาการที่พบบ่อย ได้แก่

• คลื่นไส้ อาเจียน
• ปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำ
• มีไข้ หนาวสั่น
• อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ
• ปวดศีรษะ
• ในบางรายอาจมีอาการถ่ายเป็นมูกหรือมีเลือดปน

หากมีอาการรุนแรง เช่น อาเจียนไม่หยุด ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน มีไข้สูง หน้ามืด หรือมีอาการขาดน้ำ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการอาหารเป็นพิษ

• ดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
• หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารมัน หรืออาหารดิบ
• พักผ่อนให้เพียงพอ
• ไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะรับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์