พฤติกรรมแบบนี้…เสี่ยงริดสีดวงไม่รู้ตัว

นั่งนาน เบ่งแรง ชอบกลั้นถ่าย"...ระวัง! ริดสีดวงถามหา
เคยมั้ย? เข้าห้องน้ำนาน เพราะมัวแต่เล่นมือถือ หรือบางวันก็ใช้แรงเบ่งมากกว่าปกติกว่าจะถ่ายออก พฤติกรรมแบบนี้แหละ เสี่ยงเจอกับ “ริดสีดวงทวาร” โดยไม่รู้ตัว โรคนี้เกิดจากเส้นเลือดบริเวณรูทวารโป่งพอง บางคนแค่ถ่ายมีเลือดปนก็เริ่มสงสัย บางคนถึงขั้นมีติ่งเนื้อยื่นออกมา ใช้ชีวิตลำบาก และไม่กล้าปรึกษาใคร จริงๆ แล้วโรคริดสีดวงไม่ใช่เรื่องน่าอาย และสามารถป้องกันได้ง่ายๆ แค่รู้ทันสาเหตุ รู้จักวิธีดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้
โรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids) เป็นภาวะที่เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนัก มีสาเหตุมาจากแรงดันในช่องท้องที่มากเกินไป มักเกิดจากพฤติกรรมในการขับถ่ายที่ไม่เหมาะสม รวมถึงพฤติกรรมการกินการใช้ชีวิตส่งผลกระทบต่อระบบลำไส้ แม้โรคริดสีดวงจะพบได้บ่อย แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าพฤติกรรมประจำวันบางอย่างสามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคนี้โดยไม่รู้ตัว
พฤติกรรมเสี่ยง “ริดสีดวงถามหา”
- เล่นมือถือ/อ่านหนังสือในห้องน้ำ นั่งขับถ่ายนานเกินไป โดยเฉพาะขณะเพลิดเพลินกับหน้าจอหรือหนังสือ จะเพิ่มแรงดันในช่องท้องและหลอดเลือดทวารหนัก ทำให้เสี่ยงเกิดริดสีดวงมากขึ้น
- เบ่งอุจจาระแรงๆ เป็นประจำ การเบ่งแรงจะทำให้หลอดเลือดดำโป่งพอง จนอาจเกิดการอักเสบหรือแตกส่งผลให้เลือดออกหรือริดสีดวงยื่นออกมานอกรูทวาร
- ดื่มน้ำน้อย น้ำช่วยให้อุจจาระนุ่มและขับถ่ายง่าย การดื่มน้ำน้อยจะทำให้ลำไส้ดูดซึมน้ำจากอุจจาระมากขึ้น เกิดภาวะท้องผูก และเพิ่มความเสี่ยงริดสีดวง
- ทานอาหารรสจัด ของทอด หรือของมันเป็นประจำ อาหารเหล่านี้อาจกระตุ้นการระคายเคืองของลำไส้ และกระตุ้นการอักเสบของริดสีดวงทวาร
- กลั้นอุจจาระเป็นประจำ การกลั้นอุจจาระบ่อยๆ จะรบกวนจังหวะธรรมชาติของลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายแปรปรวนและอาจกลายเป็นสาเหตุของท้องผูกเรื้อรัง
แนวทางการรักษาโรคริดสีดวงทวาร
การรักษาจะแตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรงของโรค โดยสามารถแบ่งออกเป็นวิธีหลักๆ ดังนี้
- ฉีดยาเฉพาะที่ (Sclerotherapy) เหมาะกับริดสีดวงระยะเริ่มต้น เป็นการฉีดสารเข้าไปยังบริเวณที่เป็นริดสีดวง เพื่อให้หลอดเลือดหดตัวและฝ่อลง
- จี้ด้วยความร้อน หรือเลเซอร์ ใช้พลังงานความร้อนหรือแสงเลเซอร์เพื่อทำลายเนื้อเยื่อของริดสีดวง ทำให้ฝ่อและหลุดออกในที่สุด เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและฟื้นตัวเร็ว
- ผ่าตัด (Hemorrhoidectomy) เหมาะกับผู้ที่มีริดสีดวงระยะรุนแรง หรือกรณีที่รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล การผ่าตัดจะช่วยตัดเอาริดสีดวงออกโดยตรง
ผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้ดูแลตนเองร่วมกับการใช้ยา เช่น ยาทา หรือยารับประทาน เพื่อบรรเทาอาหารและช่วยให้ริดสีดวงยุบตัว
ดูแลตัวเองอย่างไร ไม่ให้ริดสีดวงกลับมาเป็นซ้ำ
แม้จะรักษาหายแล้ว หากไม่ปรับพฤติกรรมโรคก็สามารถกลับมาได้อีก ดังนั้นการป้องกันจึงสำคัญไม่แพ้การรักษา
- ขับถ่ายให้ถูกวิธี ไม่ควรนั่งนานหรือเบ่งแรง พยายามขับถ่ายให้เสร็จใน 5 นาที
- ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา เช่น เข้าห้องน้ำช่วงเข้าเป็นประจำ ช่วยฝึกระบบลำไส้ให้ทำงานสม่ำเสมอ
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ถ่ายเป็นเลือด เจ็บ หรือมีติ่งเนื้อโผล่ ควรรีบพบแพทย์
- กินอาหารที่มีกากใยสูง เพิ่มผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ช่วยให้อุจจาระนุ่ม ลดการเบ่ง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว ช่วยป้องกันท้องผูกและเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย
โรคริดสีดวงทวารสามารถป้องกันได้ด้วยการปรับพฤติกรรมที่ทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องและทวารหนัก หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย รวมถึงดูแลสุขภาพระบบลำไส้อย่างต่อเนื่อง หากมีอาการที่สงสัยควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม