หากถูกสัตว์กัดหรือข่วน ควรทำอย่างไรดี

ในชีวิตประจำวัน เราอาจพบเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การถูกสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์จรจัดกัด หรือข่วน ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง เหตุการณ์เช่นนี้อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่าง พิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคที่หากแสดงอาการแล้วจะไม่สามารรักษาให้หายได้ และมีโอกาสเสียชีวิต 100% ดังนั้นการรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกต้อง และรีบพบแพทย์เพื่อรับวัคซีน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
4 ขั้นตอนสำคัญเมื่อถูกสัตว์กัดหรือข่วน
- ล้างแผลให้สะอาดทันที
ใช้สบู่และน้ำสะอาดล้างแผลผ่านน้ำอย่างน้อย 15 นาที เพื่อชะล้างเชื้อโรคที่อาจเข้าสู่ร่างกาย ไม่ควรละเลยแม้แผลจะดูเล็กน้อย
- ทายาฆ่าเชื้อ
หลังจากล้างแผลและซับให้แห้งแล้ว ให้ทายาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดนไอโอดีน (Povidone-iodine) เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย
- กักสัตว์เพื่อสังเกตอาการ (หากเป็นสัตว์เลี้ยง)
หากเป็นสัตว์ที่รู้แหล่งที่มา เช่น สุนัขหรือแมวของคนรู้จัก ให้กักสัตว์ไว้และสังเกตุอาการเป็นเวลา 10-15 วัน หากสัตว์มีอาการผิดปกติ เช่น น้ำลายไหล ก้าวร้าว ซึม ควรแจ้งสัตวแพทย์ทันที
- รีบพบแพทย์เพื่อรับวัคซีน
แม้แผลจะเล็กหรือไม่ลึก ก็ไม่ควรชะลอการพบแพทย์ แพทย์จะประเมินความเสี่ยง และให้วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า หรือฉีดเซรุ่มในกรณีที่เสี่ยงสูง
โรคพิษสุนัขบ้า คืออะไร?
พิษสุนัขบ้า (Rabies) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ร้ายแรงที่สุดโรคหนึ่ง ติดต่อสู่คนได้ผ่านน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น สุนัข แมว ค้างคาว โดยมากผ่านการกัด ข่วน หรือเลียบริเวณผิวหนังที่มีแผลเปิด โรคนี้ไม่แสดงอาการทันที อาจใช้เวลาฟักตัวตั้งแต่ 1 สัปดาห์ ถึงหลายเดือน เมื่อเริ่มมีอาการ เช่น ไข้ ปวดเมื่อย สับสน กลัวน้ำ กลัวแสง กล้ามเนื้อกระตุก ผู้ป่วยมักเสียชีวิตภายในไม่กี่วัน