โนโรไวรัส สาเหตุหลักท้องเสียในเด็ก
ในช่วงนี้โนโรไวรัสกำลังระบาดในหลายพื้นที่ ไวรัสตัวนี้เป็นสาเหตุของอาการท้องเสียและอาเจียนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ การติดต่อเกิดขึ้นได้ง่ายจากอาหาร น้ำ หรือการสัมผัสสิ่งปนเปื้อน ทำให้การแพร่ระบาดรวดเร็วและยากต่อการควบคุม การป้องกันและดูแลอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ มาทำความรู้จักกับโนโรไวรัส พร้อมแนวทางป้องกันและรีบมือ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัวในช่วงระบาดนี้
โนโรไวรัสคืออะไร
โนโรไวรัสเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย อาเจียน และปวดท้อง ซึ่งมักจะพบการระบาดในช่วงฤดูหนาว หรือในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันอย่างหนาแน่น เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และศูนย์เด็กเล็ก
การติดต่อของโนโรไวรัส
สามารถติดต่อได้ง่ายผ่าน
- การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อน เช่น อาหารที่ไม่ได้ล้างสะอาด หรือปรุงไม่สุก
- การสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโนโรไวรัส และนำนิ้วเข้าปาก
- การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย เช่น การดูแลผู้ป่วยที่มีอาการอาเจียน หรือท้องเสีย
อาการของโรค
อาการของโนโรไวรัสมักปรากฏภายใน 12-48 ชั่วโมงหลังติดเชื้อ โดยอาการทั่วไปคือ
- อาเจียน
- ท้องเสีย
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้
- มีไข้
- ปวดเมื่อยตามตัว
การดูแลและป้องกัน
- ล้างมือให้สะอาด ด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร และหลังใช้ห้องน้ำ
- ทำความสะอาดพื้นผิว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้ของร่วมกัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- ปรุงอาหารให้สุก และหลีกเลี่ยงอาหารดิบ
- หากมีอาการ ให้พักผ่อนและดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
ข้อควรระวังเพิ่มเติม
โนโรไวรัสสามารถคงทนในสิ่งแวดล้อมได้ดี ดังนั้นควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาด และหากมีผู้ป่วยในครอบครัว ให้แยกสิ่งของเครื่องใช้เพื่อลดความเสี่ยง การป้องกันและดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญในช่วงที่มีการระบาดของโนโรไวรัส เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวปลอดภัยจากโรคนี้