Bangpakok Hospital

5 เครื่องดื่ม ที่ไม่ควรทานพร้อมกับยา

17 ต.ค. 2567

การทานยาพร้อมเครื่องดื่มบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อการดูดซึมยาในร่างกาย ทำให้ยามีประสิทธิภาพน้อยลง หรืออาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย ดังนั้นการเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมเมื่อทานยาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้จะเราจะมาทำความรู้จักกับ 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรทานพร้อมกับยา


5 เครื่องดื่ม ที่ไม่ควรทานพร้อมกับยา

  1. นมและผลิตภัณฑ์จากนม
  • ผลกระทบ นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต หรือนมวัว อาจทำให้การดูดซึมยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ เช่น Tetracycline ลดลง เนื่องจากแคลเซียมในนมจะจับตัวกับยาทำให้ร่างกายดูดซึมยาได้น้อยลง ส่งผลให้ยาไม่สามารถออกฤทธิ์ได่อย่างมีประสิทธิภาพ
  • คำแนะนำ หากต้องการทานนม ควรเว้นระยะห่างจากการทานยาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้การดูดซึมยาเป็นไปอย่างสมบูรณ์

  1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ผลกระทบ แอลกอฮอล์สามารถทำให้ตับทำงานหนักขึ้นในการขจัดยาจากร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ยาบางชนิดมีประสิทธิภาพลดลง นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด หรือยาระงับประสาท อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น การง่วงซึม การเวียนศีรษะ หรืออาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นพิษจากยา
  • คำแนะนำ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่ต้องทานยา

  1. ชา/กาแฟ 
  • ผลกระทบ ชาและกาแฟมีสารคาเฟอีนซึ่งอาจกระทบต่อการทำงานของยาบางชนิด เช่น ยาต้านเศร้า ยาลดความดันโลหิต นอกจากนี้ยายังมีสารแทนนินที่สามารถลดการดูดซึมของธาตุเหล็กและยาบางชนิดได้ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายดูดซึมยาน้อยลงและไม่ได้รับประสิทธิภาพตามที่ควร
  • คำแนะนำ หากต้องดื่มชา/กาแฟ ควรเว้นระยะเวลาจากการทานยาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

  1. น้ำอัดลม
  • ผลกระทบ น้ำอัดลมมีส่วนประกอบของน้ำตาลและคาเฟอีนที่อาจส่งผลกระทบต่อการดูดซึมของยา นอกจากนี้กรดคาร์บอนิกในน้ำอัดลมอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร และอาจลดประสิทธิภาพของยาบางชนิดโดยเฉพาะยาในกลุ่มต้านกรด หรือยาลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
  • คำแนะนำ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมขณะทานยา เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสียประสิทธิภาพหรือก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ในกระเพาะอาหาร

  1. น้ำผลไม้ เช่น น้ำเกรปฟรุต
  • ผลกระทบ น้ำเกรปฟรุตมีสารบางชนิดที่สามารถรบกวนการทำงานของเอมไซม์ในตับที่ทำหน้าที่ขจัดยาออกจากร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ยาคงอยู่ในร่างกายได้นานเกินไปและเกิดผลข้างเคียงมากขึ้น นอกจากนี้น้ำผลไม้หลายชนิดยังมีกรดที่อาจทำให้ยาแตกตัวเร็วเกินไปก่อนที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้เต็มที่
  • คำแนะนำ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้โดยเฉพาะน้ำเกรปฟรุตเมื่อทานยา ควรทานยาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนหรือหลังการดื่มน้ำผลไม้


 
Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.