สัญญาณอันตรายระหว่างตั้งครรภ์ แม่ตั้งครรภ์ควรระวัง
การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์ของคุณแม่ ส่วนใหญ่การตั้งครรภ์จะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ยังมีบางสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาที่ควรได้รับการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน การเข้าใจและระวังสัญญาณอันตรายระหว่างตั้งครรภ์จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนและทำให้ทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ปลอดภัย
สัญญาณอันตรายระหว่างตั้งครรภ์
- มีเลือดออกที่ช่องคลอด การมีเลือดออกในระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยควรระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในไตรมาสแรก อาจเป็นสัญญาณของการแท้ง หรือในไตรมาสสุดท้ายอาจเกี่ยวข้องกับการคลอดก่อนกำหนด หากมีเลือดออกคุณแม่ควรไปพบแพทย์ทันที
- ท้องแข็งบ่อยๆ การท้องแข็ง หรือเรียกว่า Braxton Hicks เป็นการหดตัวของมดลูกที่มักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ แต่หากคุณแม่มีท้องแข็งบ่อยๆ หรือรู้สึกเจ็บท้องจริงจังอาจเป็นสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนด โดยเฉพาะหากท้องแข็งมาพร้อมกับอาการปวดหลังส่วนล่างหรือมีน้ำเดิน ควรพบแพทย์ทันที
- มีอาการตัวบวมขึ้นมากระทันหัน การบวมเล็กน้อยที่ขาหรือเท้า อาจเป็นเรื่องปกติในระหว่างตั้งครรภ์ แต่หากคุณแม่พบว่าตัวบวมขึ้นอย่างมากและรวดเร็วที่บริเวณ ใบหน้า มือ หรือเท้า อาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะที่มีความดันโลหิตสูงและมีโปรตีนปัสสาวะ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ภาวะนี้อาจเป็นอันตรายต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้
- รู้สึกเหมือนมีน้ำเดิน น้ำเดินหรือการหลั่งน้ำคร่ำ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการคลอดอาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า แต่หากมีน้ำเดินก่อนถึงกำหนดเวลาคลอด อาจเป็นสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนด หรือการติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ การเกิดน้ำเดินก่อนกำหนดต้องได้รับการตรวจจากแพทย์เพื่อประเมินสถานการณ์และรับการดูแลที่เหมาะสม
- ลูกดิ้นน้อยกว่าปกติ การดิ้นของทารกในครรภ์เป็นตัวบ่งบอกสุขภาพที่สำคัญของลูกในครรภ์ หากคุณแม่สังเกตว่าลูกดิ้นน้อยลงกว่าปกติ หรือไม่ดิ้นเลย อาจเป็นสัญญาณว่าทารกในครรภ์มีปัญหาในการเจริญเติบโต หรือมีภาวะขาดออกซิเจนในครรภ์ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบทันที การตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น อัลตราซาวด์ หรือการทดสอบการเต้นของหัวใจทารก จะช่วยให้แพทย์ประเมินสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
- มีอาการแพ้ท้องรุนแรง อาการแพ้ท้องในช่วงแรกของการตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติ แต่หากคุณแม่มีอาการแพ้ท้องที่รุนแรงจนไม่สามารถทานอาหาร หรือดื่มน้ำได้ และมีน้ำหนักลดลงอย่างมาก อาจเป็นภาวะที่เรียกว่า Hyperemesis Gravidarum ซึ่งเป็นการแพ้ท้องที่รุนแรงจนทำให้ร่างกายขาดน้ำและสารอาหาร การรักษาอาจต้องใช้ยาและการให้น้ำเกลือ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
สัญญาณอันตรายระหว่างตั้งครรภ์อาจดูเหมือนเล็กน้อยในบางครั้ง แต่หากไม่ระวังและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกในครรภ์ได้ การสังเกตสัญญาณเหล่านี้และการปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี