Bangpakok Hospital

ฝีดาษลิง สายพันธุ์ Clade 1 สายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายง่าย รุนแรงกว่าเดิม

19 ส.ค. 2567

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก หลังระบาดหนักทั่วแอฟริกา พบผู้เสียชีวิตกว่า 450 คน หลังพบสายพันธุ์  Clade 1b (เคลด 1บี) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรงมากกว่าเดิม มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อสูงสุดร้อยละ 10

เชื้อฝีดาษลิง แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ Clade 1 และ Clade 2 ซึ่งครั้งที่แล้วองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเตือนภัยสาธารณสุขเมื่อปี 2565 ตอนนั้นเป็น  Clade 2 ที่อาการไม่รุนแรง และพบว่าการระบาดส่วนมากจะเป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และรอบนี้มีสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น คือ  Clade 1 โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ไวรัสเกิดการเปลี่ยนแปลงช่วงประมาณเดือนกันยายนปีที่แล้ว และมีความรุนแรงมากกว่าเดิม แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อสูงสุดร้อยละ 10


โดยตั้งแต่ต้นปีที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก พบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 13,700 คน พบผู้เสียชีวิตกว่า 450 คน จากนั้นเจอในประเทศอื่นตามมาคือ สาธารณรัฐบุรุนดี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง เคนยา และรวันดา



อาการเป็นอย่างไร

อาการเริ่มต้นของโรคนี้ประกอบด้วย มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดหลังและปวดกล้ามเนื้อ มีผื่นขึ้นเป็นตุ่มใส หรือตุ่มหนอง มักเริ่มต้นที่ใบหน้าและแพร่กระจายไปส่วนอื่นของร่างกาย โดยพบมากสุดที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า ผื่นนี้อาจทำให้คันหรือเจ็บปวดอย่างมาก 


แพร่กระจายอย่างไร

แพร่กระจายเชื้อจากคนสู่คนผ่านการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ รวมถึงผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสทางผิวหนัง และการพูดหรือหายใจใกล้กับผู้อื่น และไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังที่มีแผล ทางเดินหายใจ หรือผ่านทางตา จมูก หรือปาก อีกทั้งโรคนี้ยังสามารถแพร่กระจายได้ผ่านการสัมผัสวัตถุที่ปนเปื้อนไวรัส เช่น เครื่องนอน เสื้อผ้า และผ้าขนหนู การสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น ลิง หนู และกระรอก

ใครเสี่ยงที่สุด

  1. ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์บ่อย และผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย หรือผู้ที่มีคู่นอนหลายคน
  2. ผู้ที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการของโรคฝีดาษลิง

การป้องกัน

  1. หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด และการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น 
  2. หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
  3. หากผู้ที่มีอาการสงสัย ควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อสายด่วน 1422 กรมควบคุมโรค




Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.