Bangpakok Hospital

4 โรคต้อ มีอะไรบ้าง

7 ส.ค. 2567

ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างมากกับร่างกาย ซึ่งโรคต้อที่เกิดขึ้นกับดวงตานั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยอาการและความรุนแรงนั้นแตกต่างกันออกไป หลายๆ คนอาจได้ยินหรือคุ้นกันมาบ้างแล้วกับโรคต้อในตา ไม่ว่าจะเป็นต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก และต้อหิน เพื่อเป็นการป้องกันและชะลอความเสื่อมของดวงตา เราควรทำความรู้จักกับโรคต้อ 4 ชนิดให้มากขึ้น เพื่อยืดอายุการใช้งานของดวงตาในอนาคต


โรคต้อทั้ง 4 มีอะไรบ้าง

1. ต้อลม
เกิดจากปัจจัยภายในที่กระทบกับดวงตาโดยตรง เช่น ฝุ่น ควัน มลภาวะ ลม หรือโดนรังสียูวีมากเกินไป

  • อาการของต้อลม มีอาการระคายเคืองบริเวณดวงตาและเยื่อบุตา รู้สึกแสบตาเมื่อโดนแสงแดด อาจตาแดง หรือมีน้ำตาไหลหากมีการระคายเคืองที่รุนแรง มีการหนาตัวขึ้นของเยื่อบุตากลายเป็นก้อนหนาบนตาขาว หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาอาจกลายเป็นต้อเนื้อที่ตาได้
  • วิธีการรักษา ต้อลมหากอาการไม่รุนแรง สามารถบรรเทาอาการและป้องกันได้ด้วยการใช้น้ำตาเทียมหยอดตาให้ชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงฝุ่นควัน มลภาวะ สวมแว่นกันแดด

2. ต้อเนื้อ เป็นโรคที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากต้อลม ซึ่งเกิดจากเยื่อบุตาขาวอักเสบเหมือนกัน แต่อาการตาเป็นต้อเนื้อจะรุนแรงกว่าต้อลม โดยต้อเนื้อจะลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมยื่นเข้าไปในบริเวณหัวตาดำ หากเนื้อเยื่อเข้าไปปิดรูม่านตา จะทำให้ผู้ที่เป็นต้อเนื้อสายตาเอียง และมองเห็นในที่สุด แต่ผู้ป่วยสามารถลอกต้อเนื้อออกได้ก็กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
  • อาการขอต้อเนื้อ จะมีอาการคล้ายกับต้อลม คือ ระบายเคืองบริเวณดวงตา แสบตา น้ำตาลไหล เหมือนมีเม็ดทรายเข้าตาทำให้เกิดอาการอักเสบได้ แต่อาการรุนแรงกว่าต้อลม เพราะต้อเนื้อมีผลต่อการมองเห็น หากเนื้อเยื่อเข้าไปบริเวณตาดำจะทำให้สายตาเอียง หรืออาจมองไม่เห็นได้
  • วิธีการรักษา บรรเทาอาการด้วยการหยอดตาเพื่อลดการระคายเคือง หรือควบคุมการอักเสบด้วยยาหยอดตาลดการอักเสบ น้ำตาเทียมป้องกันตาแห้ง แต่ในกรณีที่ต้อเนื้อลุกลามเข้าไปในกระจกตามากจะทำให้การมองเห็นแย่ลง สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดลอกต้อเนื้อ

3. ต้อกระจก เกิดจากเลนส์ตาเสื่อมสภาพลงตามอายุ เนื่องจากองค์ประกอบของเลนส์แก้วตาเปลี่ยนไปจนทำให้เลนส์ตาขุ่น ซึ่งพบมากในผู้สูงอายุ
  • อาการของต้อกระจก มีอาการตาพล่ามัว มองภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อนกัน เนื่องจากเลนส์ตาขุ่นทำให้บดบังการมองเห็น และเมื่ออยู่ในที่มืดหรือสว่างมากๆ การมองเห็นจะแย่ลง
  • วิธีการรักษา การผ่าตัด ด้วยวิธีการสลายต้อกระจกด้วยเครื่องสลายต้อและใส่เลนส์แก้วตาเทียม

4. ต้อหิน เป็นโรคที่มีความเสื่อมของขั้วประสาทตาที่ทำให้สูญเสียการมองเห็น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะไม่ทราบว่าเป็นโรคนี้ เพราะไม่มีอาการบอกล่วงหน้า มักพบความดันในลูกตาสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้โรคแย่ลง ส่งผลทำลายเส้นประสาทตาและขั้นประสาทตา ทำให้เกิดการสูญเสียลานสายตาอย่างถาวรได้
  • อาการของต้อหิน  มักไม่มีอาการชัดเจนจนกระทั่งการมองเห็นแคบลง และสูญเสียการมองเห็นอย่างช้าๆ จนตาบอดอย่างถาวร ในกรณีหากเป็นชนิดเฉียบพลันอาจมีอาการปวดตา ตาแดง ตามัวก่อนได้
  • วิธีการรักษา แม้ไม่ได้ช่วยให้หายขาดแต่ช่วยควบคุมไม่ให้อาการแย่ลงได้ ส่วนใหญ่การรักษาเพื่อควบคุมความดันตาให้เหมาะสมโดยมีทั้งการใช้ยาหยอดตา ยารับประทาน การใช้เลเซอร์รักษาตามชนิดต้อหิน และการผ่าตัดเมื่อรักษาด้วยวิธีการใช้ยาและเลเซอร์ไม่ได้ผล โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของจักษุแพทย์เพื่อควบคุมความดันลูกตาให้อยู่ในเกณฑ์ดี 


หากใครที่เริ่มมีปัจจัยเสี่ยงก็ควรหลีกเลี่ยงตั้งแต่เนิ่นๆ และหมั่นตรวจสุขภาพตากับจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่ต้องดูแล




Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.