Bangpakok Hospital

4 วิธีง่ายๆ ดูแล “วุ้นในตาเสื่อม” ด้วยตัวเอง

23 ก.ค. 2567

นตาเสื่อม มักเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันภาวุ้นตาเสื่อมกลับเกิดได้ง่ายขึ้นในวัยทำงาน เนื่องจากมีหลายปัจจัยกระตุ้นที่เกิดภาวะนี้ วุ้นตาเสื่อมถึงแม้จะไม่มีอันตรายใดๆ แต่หากชะล่าใจและยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อาการวุ้นตาเสื่อมอาจหนักขึ้น จนนำไปสู่ภาวะจอประสาทตาลอกและอาจเสี่ยงตาบอดถาวรได้


4 วิธีง่าย ๆ ดูแล “วุ้นในตาเสื่อม” ด้วยตัวเอง

  1. จำกัดเวลาหน้าจอ การมองหน้าจอเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักจากการปรับโฟกัสบ่อย จนเป็นสาเหตุให้วุ้นตาเสื่อมเร็วขึ้น ดังนั้นหากมีเวลาควรพักสายตา เพื่อไม่ให้ดวงตาถูกใช้งานจนหนักเกินไป
  1. สวมใสแว่นตา เมื่อต้องอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน ควรสวมแว่นกรองแสงสีฟ้าที่ช่วยถนอมสายตา เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอสามารถทำลายเซลล์รับแสงในจอตา ทำให้เสี่ยงเป็นจอประสาทตาลอก
  1. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระทบกระเทือนศรีษะ หากศรีษะถูกกระทบอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดตาพร่ามัว มองไม่ชัดเจน หรือเห็นภาพซ้อนได้ เพราะการบาดเจ็บที่ศรีษะส่งผลกระทบต่อลูกตา ไม่ว่าจะเป็นการใช้หัวโหม่งบอล การพยักหน้าหรือส่ายหน้าอย่างรุนแรง
  1. รับประทานอาหารที่มีลูทีน และซีแซนทีน สารทั้งสองชนิดมีความสำคัญในการช่วยปกป้องรังสียูวีจากแสงแดด และช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย ดังนั้นการทานอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีน จะช่วยชะลอการเสื่อมของดวงตาได้ ส่วนมากมักพบในโกจิเบอร์รี่ และผักสีเขียว เช่น บร็อคโคลี่ ผักกาด คะน้า โหระพา

วุ้นในตาเสื่อม ถึงแม้จะไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรง แต่ก็ควรตรวจสุขภาพดวงตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง




Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.