ภาวะแทรกซ้อนอันตราย จากไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออก เป็นอีกหนึ่งโรคที่ระบาดมากในช่วงฤดูฝน ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) มี 4 สายพันธุ์ โรคไข้เลือดออกเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนจนเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ เพราะฉะนั้นการป้องกันโรคเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการฉีควัคซีนป้องกันไข้เลือดออกที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและลดความรุนแรงของโรค
อาการไข้เลือดออก
- ไข้สูงเฉียบพลัน
- ไข้สูงขึ้นๆ ลงๆ 2-7 วัน
- ปวดหัว ปวดตา ปวดเมื่อยตามตัว
- มีผื่นขึ้น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล
- พบจุดเลือดออกบนผิวหนัง
ไข้เลือดออกอันตรายถึงชีวิต
โรคไข้เลือดออกสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ภาวะเลือดออกตามเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน ภาวะความดันโลหิตต่ำจนช็อก ภาวะการไหลเวียนเลือดล้มเหลว และภาวะไตวาย ตับอักเสบ ถึงแม้ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังกล่าวจะพบได้น้อย แต่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษได้แก่
- เด็กที่มีอายุต่ำว่า 5 ปี เสี่ยงเกิดอาการไข้สูง อาการชักเนื่องจากภาวะสมองอักเสบจากไข้เลือดออก
- ผู้ใหญ่อายุ 15-60 ปี เป็นกลุ่มที่ภูมิคุ้มกันตอบสนองกับเชื้อไวรัสรุนแรง เสี่ยงเกิดโรครุนแรงได้มากกว่าผู้สูงอายุ
- ผู้ที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาแล้ว เพราะการติดเชื้อซ้ำครั้งที่ 2 จะเกิดการกระตุ้นภูมิต้านทานของการติดเชื้อครั้งก่อน แต่เป็นภูมิต้านทานชนิดที่ไม่สามารถป้องกันได้ ทำให้เชื้อไวรัสไข้เลือดสามารถกระจายตัวได้มากขึ้น ทำให้การติดเชื้อในครั้งต่อๆไปมีอาการรุนแรงมากกว่าเดิม
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคปอด มีโอกาสรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ปวดโรคปอด และหัวใจ อาจเสี่ยงเกิดอาการช็อก และทำการรักษาได้ยากกว่ากลุ่มอื่น
ไข้เลือดออกป้องกันได้ด้วยวัคซีน
- วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก (Qdenga) ป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ทุกสายพันธุ์ สามารถฉีดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ที่มีอายุ 4-60 ปี
- ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน โดยฉีดได้ทั้งคนที่เคยและไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน
- วัคซีนมีความปลอดภัย ซึ่งผลข้างเคียงที่พบเป็นอาการทั่วไปได้แก่ อาการปวดตรงตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ โดยส่วนมากสามารถหายเองได้ภายใน 1-3 วัน