วิธีรักษาน้ำนมแม่ เก็บแบบไหนถึงอยู่ได้นาน
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีความสำคัญสำหรับลูกน้อยในช่วงแรกเกิดจนถึง 2 ปี เพราะน้ำนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิดที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งการปั๊มนมใส่บรรจุภัณฑ์และเก็บไว้ที่อุณหภูมิที่เหมาะสมจึงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่คุณแม่ต้องใส่ใจอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้น้ำนมคงคุณภาพเหมือนแรกปั๊มออกจากเต้านม วิธีเก็บน้ำนมที่ถูกต้องเป็นอย่างไร และการเก็บน้ำนมแบบไหนที่ไม่ควรทำ แอดมินมีสาระดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากค่ะ
วิธีการเก็บรักษานมแม่
ควรเก็บน้ำนมใส่ขวดนมหรือถุงเก็บน้ำนม เขียนวันที่ เวลาปั๊มนม และควรแบ่งปริมาณนมให้เพียงพอต่อหนึ่งมื้อ วิธีการเก็บน้ำนมอาจใช้วิธีการบีบออกจากเต้าด้วยมือหรือใช้เครื่องปั๊มนม ซึ่งมีข้อแนะนำดังนี้
- ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่
- ทำความสะอาดบริเวณลานนมให้สะอาดก่อนปั๊มหรือให้นมลูก
- เตรียมขวดนม หรือถุงเก็บน้ำนมที่สะอาด ปราศจากเชื้อ
- จัดเรียงลำดับน้ำนมก่อน-หลัง เพื่อสะดวกในการนำมาใช้
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- เครื่องปั๊มนม
- ถุงเก็บน้ำนม
- ขวดเก็บน้ำนมแบบมีขีดวัด
- ปากกาเขียนถุงนม
ระยะเวลาการเก็บน้ำนม
- เก็บในอุณหภูมิ (นอกห้องแอร์) อุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเซลเซียส เก็บได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- เก็บในอุณหภูมิ (ในห้องแอร์) อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส เก็บได้ 4 ชั่วโมง
- กระติกน้ำแข็ง อุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส เก็บได้สูงสุด 24 ชั่วโมง
- เก็บตู้เย็นช่องธรรมดา อุณหภูมิต่ำกว่า 2-4 องศาเซลเซียส เก็บได้ 2-5 วัน (เก็บไว้ใกล้บริเวณจุดที่เย็นที่สุด)
- ช่องแช่แข็ง (ของตู้เย็นแบบประตูเดียว) อุณหภูมิ -10 ถึง -15 องศาเซลเซียส เก็บได้ 2 สัปดาห์
- ช่องแช่แข็ง (ของตู้เย็นแบบประตูแยก) อุณหภูมิ -18 ถึง -20 องศาเซลเซียส เก็บได้ 3 เดือน
- ตู้แช่แข็ง อุณหภูมิต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส เก็บได้ 6 เดือน