ความแตกต่างระหว่าง ไวรัส RSV vs ไข้หวัดใหญ่
RSV เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ มักพบบ่อยในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี หากพ่อแม่ไม่สังเกตอาการให้ดี อาจคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาได้ และหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี จะทำให้เด็กมีอาการรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบได้ ดังนั้นการสังเกตความแตกต่างระหว่างเชื้อไวรัส RSV กับไข้หวัดใหญ่ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรรู้
RSV กับไข้หวัดใหญ่ต่างกันอย่างไร
RSV คล้ายไข้หวัด แต่แตกต่างกันตรงที่ RSV จะไข้สูง และระยะเวลาในการเป็นนานกว่า อาจมีอาการอยู่ที่ 5-7 วัน ไอนาน มีน้้ำมูกเยอะ มีเสมหะมากกว่าเป็นที่เป็นไข้หวัดใหญ่ และสิ่งที่น่ากังวลคือ พอเด็กมีน้ำมูก หรือเสมหะเยอะ บางครั้งเด็กไม่สามารถเอาออกได้ทำให้หายใจลำบาก
อาการของไวรัส RSV
- มีไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส ติดต่อกันหลายวัน
- มีน้ำมูก ลักษณะน้ำมูกจะมีความเหนียว
- ไอมาก เสมหะเยอะและเหนียวข้น
- หายใจมีเสียงหวีด หรือเสียงครืดคราดในลำคอ หายใจแรง หน้าอกบุ๋ม
อาการของไข้หวัดใหญ่
- มีไข้สูง 38-39 องศาเซลเซียส นานกว่า 3-4 วัน
- มีอาการปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
- ไอแห้งๆ มีน้ำมูกไหล อาการจะรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา
- ในบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
วิธีการป้องกันการติดเชื้อ RSV
สามารถป้องกันการติดเชื้อ RSV ได้เหมือนกับการป้องกันจากโรคไข้หวัดปกติ แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ได้แก่
- ล้างมือบ่อยๆ ทั้งเด็ก พ่อแม่ และผู้ดูแล
- หลีกเลี่ยงการพาลูกไปในที่แออัด หรือที่ที่มีเด็กอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก
- หากมีอาการคล้ายไข้หวัด ควรงดพาออกนอกบ้านเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
- สอนให้ใส่หน้ากากอนามัย ทุกครั้งที่มีอาการคล้ายหวัด ไอ จาม
- หากมีเด็กอยู่ร่วมกันมากกว่า 1 คน เช่น พี่น้อง ควรแยกกันเพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อด้วยกัน
- ทำความสะอาดบ้าน สิ่งของ เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น และของใช้ส่วนตัวลูกบ่อยๆ
- ดื่มน้ำให้มากๆ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
