อันตราย ใช้สายตาในที่มืด
ใครหลายคนอาจเป็น เตรียมตัวปิดไฟเข้านอน แต่ก็ขอเล่นโซเชียลก่อนนอนสักหน่อย มารู้ตัวอีกทีก็เป็นชั่วโมงแล้วกับการที่จ้องหน้าจอในความมืด
และยิ่งสมาร์ตโฟนยังผลิตแสงสีฟ้าที่ส่งผลเสียต่อดวงตา จึงทำให้เกิดความไม่สบายตา ก่อให้เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง เมื่อเล่นสมาร์ตโฟนในที่มือประจำอาจส่งผลเสียด้านสายตาในระยะยาวได้
ดังนั้นควรตรวจวัดสายตาและตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี เพื่ออัพเดทค่าสายตา และโรคทางตาทีอาจหลบซ่อนอยู่ได้
อาการตาล้าเป็นอย่างไร
ผู้ที่มีอาการตาล้า จะมีอาการปวดตา ตามัว บางครั้งอาจเห็นภาพซ้อน หากพยายามเพ่ง หยีตากระพริบตาแล้วไม่ดีขึ้น อาจมีอาการปวดศีรษะ ตาแดง ตากระตุก และอาจมีอาการระคายเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล
สาเหตุของอาการตาล้า
สามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น ใช้งานสายตาหนักมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือที่มีแสงสว่างมากเกินไปในที่มืด หรือแสงน้อยเกินไปในที่สว่าง เมื่อเพ่งสู้นานเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการตาล้า จนเกิดตาพร่ามัวได้
ดูแลดวงตาอย่างไร เมื่อต้องใช้สายตาในที่มืด
- กระพริบตาบ่อยๆ เพราะการกระพริบตาจะช่วยให้เกิดน้ำตาสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ในขณะเดียวกันการจ้องจอนานๆ จะทำให้อัตราการกระพริบตาลดลงจากปกติ 20-22 ครั้ง/นาที เหลือเพียง 6-8 ครั้ง/นาที ทำให้เกิดอาการตาแห้ง
- ปรับแสงสว่างหน้าจอ การลดความจ้าของแสงหน้าจอไม่ว่าจะสมาร์ตโฟนหรือแท็ปเล็ต ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้รู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น
- สวมแว่นกรองแสง สิ่งหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อดวงตา คือ แสงสีฟ้าจากหน้าจอ เพราะแสงสีฟ้าสามารถเข้าไปทำลายเซลล์จอประสาทตา ก่อให้เกิดภาวะตาล้า และนำไปสู่ “โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม” ได้ด้วย
- พักสายตา หากต้องจ้องจอหรือใช้สายตาเป็นเวลานาน ควรพักสายตาตามกฏ 20-20-20 คือทุก 20 นาที ให้พักสายตา 20 วินาที โดยการมองออกไปไกลๆ ประมาณ 20 ฟุต