ปัสสาวะเล็ด เรื่องไม่เล็กสำหรับผู้หญิง
ปัญหาของผู้หญิงวัย 40 ขึ้นไปต้องเจอกับอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ไอ จาม มีปัสสาวะเล็ด จนกลายเป็นความไม่มั่นใจของผู้หญิงหลายๆ คน
เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องน่าอายจนทำให้ขาดความมั่นใจ และยังกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันที่อาจต้องงดกิจกรรมบางอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นอาการด้วย
ดังนั้นเราควรทำความรู้จักกับอาการ รวมไปถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา เพื่อจะได้เข้าใจและรับมือได้เมื่อเกิดขึ้นกับตัวเอง
ปัสสาวะเล็ดคืออะไร
ปัสสาวะเล็ด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อาการช้ำรั่ว เป็นภาวะที่ทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ดที่เกิดได้กับทุกเพศ เริ่มจากวัยทำงานจนถึงวัยทอง สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทหรือกล้าเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ และความอ่อนแอของอุ้งเชิงกราน
อาการของโรคปัสสาวะเล็ด
เป็นอาการที่ไม่สามารถควบคุมกระเพาะปัสสาวะได้ ทำให้มีปัสสาวะเล็ดออกมา และอาจรู้สึกปวดปัสสาวะมากจนกลั้นไว้ไม่อยู่ อาจเกิดขึ้นในขณะ ไอ จาม หัวเราะ ออกกำลังกาย หรือยกของหนัก
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด
- อายุที่มากขึ้น
- ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้เยื่อบุในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะเสื่อมสภาพ
- น้ำหนักตัวมาก หรือ โรคอ้วน
- การคลอดบุตร จำนวนของการคลอดบุตร มีส่วนส่งผลทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมกระเพาะปัสสาวะอ่อนแอลง จนทำให้เนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อน
แนวทางการรักษา
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุให้เกิดปัสสาวะเล็ด เช่น ลดน้ำหนัก เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน น้ำอัดลม
- หากปัสสาวะเล็ด เมื่อมีแรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นอาจให้ผู้ป่วยฝึกขมิบ เพื่อบริหารหูรูดให้กระชับและมีแรงกลั้นปัสสาวะ
- กลุ่มอาการปัสสาวะเล็ด เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท หรือมีปัญหากระเพาะปัสสาวะไวกว่าปกติ จะรักษาเบื้องต้นด้วยการปรับพฤติกรรม โดยลดปริมาณการดื่มน้ำ และควบคุมการปัสสาวะให้เป็นเวลา
- กรณีที่ไม่สามารถใช้ยารับประทาน หรือใช้ไม่ได้ผล อาจรักษาด้วยกา่รใส่ยาเข้ากระเพาะปัสสาวะ ช่วยยับยั้งการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ
- การผ่าตัด เพื่อเสริมแรงต้านบริเวณท่อปัสสาวะ ช่วยให้การทำงาานของท่อปัสสาวะดีขึ้น เป็นการรักษาที่เห็นผลเร็ว ไม่ยุ่งยาก และมีประสิทธิภาพสูง