Bangpakok Hospital

รังสียูวีและฝุ่นละออง สาเหตุสำคัญของการเกิดต้อลม

10 ต.ค. 2565


ีลีน
บางคนมีอาการระคายเคืองตาอยู่บ่อยครั้ง อาจไม่ใช่เศษฝุ่นเข้าตา แต่อาจเกิดจากต้อลม ซึ่งเป็นโรคทางดวงตาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากเนื้อเยื่อปกติกลายเป็นเนื้องอกที่เยื่อบุตาขาว ทำให้มีอาการระคายเคือง
แต่ละคนอาการก็จะแตกต่างกันออกไป บางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ในบางรายก็อาจเกิดอาการรุนแรงได้เช่นกัน
ลีน

ต้อลม (Pinguecula)

เป็นโรคต้อชนิดหนึ่ง เกิดจากการเสื่อมของเยื่อบุตาขาว โดยจะมีก้อนเม็ดเล็กๆ สีเหลืองใส นูนอยู่บริเวณตาขาว ซึ่งสามารถขึ้นได้ทั้งหัวตาและหางตา และต้อลมนี้ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง เพียงแต่จะทำให้ระคายเคืองจนเกิดความลำคาญ หากระคายเคืองมากก็ทำให้เกิดการอักเสบที่ดวงตา โรคต้อลมนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนมากจะพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่ทำงานกลางแจ้งหรือต้องตากแดดตากลมอยู่เสมอ

อาการของต้อลม

ผู้ที่มีอาการต้อลม จะปรากฏอาการน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยและการใช้ชีวิตของแต่ละคน ซึ่งอาการต้อลม มักจะมีอาการที่ปรากฏชัดเจนดังนี้

  1. มีตุ่มนูนขนาดเล็กสีเหลืองเกิดขึ้นภายในตาขาว
  2. มีอาการตาแห้ง เคืองตา แสบตา
  3. มีความรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งติดอยู่ในดวงตา เช่น เม็ดทราย หรือเศษผง
  4. อาการคันตา ทำให้ตาแดงและอักเสบในบางราย
  5. ตาบวมและมีอาการเจ็บตา

โรคต้อมักจะไม่ก่ออาการ แต่ถ้าเกิดการอักเสบมากขึ้นหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการดังต่อไปนี้

  1. ขนาดก้อนเนื้อที่ต้อลมมีขนาด รูปร่าง หรือสีเปลี่ยนไป
  2. มีของเหลวสีเหลืองไหลออกจากดวงตา 
  3. เปลือกหรือผิวบริเวณรอบดวงตาบวมแดง
  4. อาการแย่ลงเรื่อยๆ แม้ได้รับการรักษาแล้ว
  5. มีปัญหาในการมองเห็นเพิ่มขึ้น

สาเหตุของการเกิดต้อลม

ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดต้อลมที่แน่ชัด แต่พบว่ามีปัจจัยสำคัญในการพัฒนาโรคมาจากการโดนแสงแดดหรือรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดต่อเนื่องเป็นเวลานาน รวมถึงเกิดจากภาวะตาแห้ง และสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองของดวงตา เช่น ฝุ่นระออง ควัน ลม อากาศแห้ง ดังนั้นโรคนี้จึงพบได้บ่อยในประเทศที่มีแสงแดดจัด
ลีน

วิธีป้องกันต้อลม

แม้ว่าสาเหตุของการเกิดโรคที่ไม่ทราบแน่ชัด แต่โรคต้อลมสามารถป้องกันได้ด้วยการเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรคขึ้น ดังต่อไปนี้

  1. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แจ้งเป็นเวลานาน หากจำเป็นให้ใส่แว่นตาที่มีเลนส์ในการกรองรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ เพื่อปกป้องดวงตาเมื่อต้องทำงานหรืออยู่ในสถานที่ที่มีแดดจัด
  2. หากอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือทำงานในสถานที่แห้ง มีลม และฝุ่นละอองเยอะ ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตาจากลม ฝุ่นละออง เศษผง หรือสิ่งแปลกปลอมขนาดเล็กที่อาจถูกพัดพ่มากับลมได้เช่นกัน 
  3. ดูแลดวงตาให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ เมื่อรู้สึกว่าเกิดอาการตาแห้ง ซึ่งสามารถหยอดน้ำตาเทียม ซึ่งประกอบด้วยสารช่วยหล่อลื่นและให้ความชุ่มชื่นแก่ดวงตา

 
Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.