ข้อควรรู้ ก่อน-หลังฉีด Botox ควรดูแลตัวเองอย่างไร
เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยก็เพิ่มมากขึ้น และเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่น แสงแดดเมืองไทย ความเครียด การใช้เครื่องสำอางมากเกินไป หรือการไม่ล้างหน้าและทาครีมบำรุงก่อนนอน หรือแม้แต่พฤติกรรมที่ชอบขมวดคิ้วหรือย่นหน้าผากบ่อยๆ ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอย
โบท็อกซ์จึงเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะช่วยลดเรือนริ้วรอยและร่องลึกได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้น
ปัจจุบันโบท็อกซ์มีหลายราคาและหลายยี่ห้อก่อนตัดสินใจฉีดเราควรศึกษาข้อมูลของแต่ละยี่ห้อให้ดี รู้ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังฉีดเพื่อให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้ดีและอยู่ได้นานขึ้น
โบท็อกซ์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ลดริ้วรอยบนใบหน้า
- แก้ปัญหารูปหน้าไม่เท่ากัน
- กรอบหน้าไม่ชัดเจน
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกรามใหญ่
- ผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้า
- ต้องการมีหน้าเรียวเล็ก และดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมาชาติ
- ช่วยยกกระชับผิว
- ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น บริเวณรักแร้
- ลดขนาดกล้ามเนื้อ เช่น บริเวณน่อง
การเตรียมตัวสำหรับการเข้ารับบริการ
งดทานวิตามินกลุ่มที่ทำให้เลือดหยุดยาก เช่น วิตามินซี , น้ำมันตับปลา , จังโก๊ะ , แป๊ะก๊วย อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
ขั้นตอนการรักษา
แพทย์จะทำการฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งที่ต้องการรักษาโดยฉีดลงบริเวณกล้ามเนื้อด้วยเข็มขนาดเล็กมาก ในบางกรณีแพทย์จะใช้น้ำแข็งประคบในส่วนที่จะทำการฉีดโบท็อกซ์ หรือาจมีการแปะยาชาร่วมด้วยก่อนทำ
คำแนะนำ
- งดนอนราบ 4 ชั่วโมง หลังฉีด
- งดนอนกดจุดหรือกระทำใดๆที่มีผลต่อบริเวณที่รักษาเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังการรักษาด้วยความนิ่มนวล หลีกเลี่ยงการกด ถู บริเวณฉีด
- กรณีมีอาการบวมแดงหรือช้ำสามารถประคบน้ำแข็งได้ในช่วง 1-2 วันแรก หลังฉีด
- พยายามขยับกล้ามเนื้อ บริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมง หลังฉีดเพื่อให้ยากระจายเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
- รอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
โบท็อกซ์โรงพยาบาลมี 2 รุ่น
- Allergan จาก USA
- Nabota จาก เกาหลี