ตะคริวระหว่างตั้งครรภ์ สามารถป้องกันดูแลได้
ตะคริวขณะตั้งครรถ์ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในช่วงที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ มักจะพบปัญหาการเป็นตะคริวได้อยู่บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่จะเริ่มจากการเป็นตะคริวเล็กน้อยจนแทบจะไม่ทันได้สังเกต แต่อาการจะดีขึ้นโดนไม่ต้องทำอะไร
เวลาผ่านไปคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น มีการแบกรับน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นตามด้วย ทำให้กล้ามเนื้อฝืดไม่ยืดหยุ่นเหมือนเดิม จึงส่งผลให้เป็นตะคริวจากกล้ามเนื้อที่หดตัวขึ้นมาทันที
และในบางกรณีอาจเป็นตะคริวบริเวณมดลูก ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงถึงอาการแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ได้ คุณแม่จึงต้องรีบฝากครรภ์และพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจอย่างเหมาะสม
สาเหตุภาวะตะคริว
1. เป็นภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ เนื่องจากทารกต้องนำไปใช้สร้างกระดูกและฟัน
2. ร่างกายขาดน้ำ และความผิดปกติของเกลือแร่ในร่างกาย
3. เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เนื่องจากการทำงาน หรือการนั่งขดขาในท่าเดิมเป็นเวลานาน
4. ท้องมีขนาดโตขยายมากขึ้น มดลูกจะไปกดทับตรงตำแหน่งของอุ้งเชิงกราน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณน่องขาดออกซิเจน ทำให้เกิดเป็นตะคริว
อาการ
ตะคริวจะเกิดขึ้นตอน ไอ จาม หรือเปลี่ยนท่านั่ง มักจะเป็นบริเวณท้อง และข้อเท้าเป็นส่วนใหญ่ หากเป็นที่ข้อเท้าจะรู้สึกเจ็บปวดมาก เนื่องจากการหดเกร็งอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้อจนเป็นก้อนแข็งๆ โดยส่วนใหญ่คุณแม่ตั้งครรภ์จะเกิดอาการตะคริวเมื่ออายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไป และเป็นมากที่สุดในช่วง 2 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด
วิธีการป้องกัน
1. ตะคริวที่น่อง เหยียดขาข้างที่เป็นออกให้สุด ใช้มือข้างหนึ่งประคองส้นเท้าไว้ มืออีกข้างดันปลายเท้าขึ้นลงช้าๆ แล้วนวดที่น่องเบาๆ ไม่ควรนวดแรงเพราะกล้ามเนื้ออาจจะบาดเจ็บทำให้ตะคริวกลับมาอีกได้
2. ตะคริวที่ต้นขา เหยียดขาข้างที่เป็นออกให้สุดใช้มือข้างหนึ่งประคองส้นเท้าไว้ส่วนมืออีกข้างค่อยๆกดลงบนหัวเข่าแล้วนวดต้นขาบริเวณที่เป็นจะตะคริวเบาๆ
3. ตะคริวนิ้วเท้า เหยียดนิ้วเท้าตรง ลุกขึ้นยืนเขย่งเท้าเดินไป - มา เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว และค่อยนวดบริเวณนิ้วเท้าเบาๆ ถ้าคนท้องเป็นตะคริวที่นิ้วมือก็เหยียดนิ้วมือออก เพื่อให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นคลายออก
4. หากเป็นตะคริวบริเวณท้องอย่างต่อเนื่อง ควรขอแนะนำจากแพทย์ หากมีเลือดออกเป็นจำนวนมากร่วมกับการเป็นตะคริว ควรรีบพบแพทย์ทันที
ดังนั้นคุณแม่ควรดูแลเรื่องการรับประทานอาหาร เช่น ดื่มน้ำผักใบเขียว ทานเมล็ดอัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เต้าหู้ และปลาเล็กปลาน้อย หรืออาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มากๆ หรือแช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายบ้าง พยายามเปลี่ยนอริยาบทของตัวเองบ่อยๆ ไม่นั่งหรือยืนท่าเดิมนานๆ และควรหลีกเลี่ยงอยู่ในที่ที่อาการเย็นเป็นเวลานานๆ จะช่วยลดอาการเสี่ยงเป็นภาวะตะคริวได้